5 สถานที่เที่ยวในประเทศเมียนมาร์ที่คุณจำเป็นต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

ถ้าหากเอ่ยถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย โดยมากผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมักนึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แต่ว่าเรื่องจริงประเทศพม่า ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่มีคุณค่าแก่การไปสัมผัสสักครั้ง วันนี้พวกเราเก็บรวบรวม 5 สถานที่เที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่แห่งใดบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพุกาม ทะเลเจดีย์แล้วก็วิถีชีวิตแบบพุกามๆ
ถือเป็นโชคดีของชาวพุกาม ที่ศาสนาพุทธรุ่งเรืองถึงขีดสุดเหมือนกันขณะนั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ พระองค์สร้างเจดีย์แห่งแรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” แล้วต่อจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายในพม่าก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด อาจด้วยเหตุว่าความเชื่อถือที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่มโหฬารเพียงใด ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเพียงแค่นั้น

อาณาจักรประเทศพม่าเคยรุ่งเรืองขนาดไหนพวกเราอาจไม่ต้องอธิบาย เนื่องจากว่าเกือบ 1,000 ปีให้หลังทุกสิ่งทุกอย่างได้พิสูจน์ตัวเองไปเป็นระเบียบแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะต้องมาพิสูจน์ความใหญ่โตนั้นด้วยตาของพวกเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือเพียงแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่ทราบว่าอีกหน่อยจะเหลือให้ดูแค่ไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
ถ้าโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันเลยดีกว่า! สถานที่เที่ยวในพม่า อีกแห่งที่อยากเชื้อเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำที่แรกของพม่า ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้เจอกับสไลด์เดอร์สุดเยี่ยมสุดยอด “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้ท่านไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กม./ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้ท่านและเพื่อนพ้องๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกด้วยกัน ผ่านท่อสีเขียวที่เลี้ยวไปเลี้ยวมา ยาวกว่า 60 เมตร! นอกนั้นยังมีโซนสำหรับหนูน้อยอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการเครื่องอำนวยความสะดวกอีกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของของที่ระลึก อย่างครบครัน หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันเลยดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้ดั้งเดิม ที่แก่กว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้จำนวนพันกว่าต้น เราสามารถเดินดูสะพานไม้ไปเรื่อยๆได้ แล้วก็ยิ่งตอนที่ดวงตะวันกำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศรอบๆรอบๆสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์เป็นประกายกับสายน้ำ นอกจากจะได้ชมความสวยของตะวันขึ้นแล้วก็ตกแล้ว ยังได้มองเห็นวิถีชีวิตของคนเมียนมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงตาตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายอาหารบนเกาะ ดูดวงอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลาและก็กุ้งสดๆจากทะเลสาบ ให้ได้ชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วรอดูดวงตะวันตกได้อีกด้วย แนวทางท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังน้อยที่สุด คือ สามารถยืนดูทิวทัศน์บนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละแบบแรง

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด รวมทั้งวิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ราษฎรใช้ชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นประชาชนเค้าก่อสร้างบ้านและก็พักอาศัยกันในทะเลสาบเลยเอ็งรเอ้ยยย ต่อไปนี้เนี่ย แน่นอนการดำรงชีพรวมทั้งการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าจะต้องเกี่ยวกับทางเรือ ดังเช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมทั้งยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่นอนมีหยุดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือความสามารถพิเศษของชาวอินติดอยู่เนี่ยล่ะ การพายเรือด้วยเท้าฝ่ายเดียวสำหรับการสัญจรรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่มีใครเหมือนในโลก ดังมากโว้ย ดังจนกระทั่งตรงนี้เป็นอีกเป้าหมายนึงที่นักเดินทางต้องมาดูเลยแหละ รู้แบบงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่สมุทรพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในสมุทรอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระนองเพียงแค่ราว 81.2 กิโลเมตรเท่านั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีริมหาด มีช่องว่างอยู่กลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าเกิดมองดูจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องกึ่งกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำสมุทรสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้เห็นแจ่มแจ้ง จนได้รับการขนานนามจากคนไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนต่างประเทศจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

มองเห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวเมียนมาร์ ก็มิได้มีแต่ว่าการไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สิ่งเดียวแค่นั้น ประเทศพม่ายังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกเยอะมาก โดนใจคนถูกใจเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ หากได้โอกาสลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวประเทศพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 สถานที่เที่ยวในเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด อัพเดท 2018

ประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนประเทศไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องด้วยใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แล้วก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย หากจะกล่าวถึงสถานที่เที่ยวในเกาหลีนั้นในความเป็นจริงแล้วมีมากมายหลายที่ ฉะนั้นคนไหนกำลังแพลุกลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนดี ทดลองตามมามอง 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วต้องต้องการไปเที่ยวแน่ๆ

1. พระราชสำนักเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
วังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “วังคยองบกกุง” เป็นอีกทั้งสัญญลักษณ์และก็แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชวังที่มีขนาดใหญ่และดั้งเดิมที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นในปี 1394 ในยุคพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน แรกเริ่มนั้นภายในราชสำนักมีตึกและพระราชวังต่างๆมากกว่า 200 หลัง แต่เมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น ตึกส่วนใหญ่ก็ได้ถูกทำลายลงคงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนตำหนิค Namiseom Island
เกาะนามิเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากผลการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ราว 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้โด่งดังในหมู่คนเกาหลีมานานเพราะเหตุว่ามีธรรมชาติที่งดงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติอาทิเช่น กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย รวมทั้งตรงนี้จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งสิ้น เพียงแค่รักษาความชอบธรรมชาติเอาไว้ โดยตอนที่มีนักท่องเที่ยวมาสูงที่สุดจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเหตุว่าต้นไม้มากที่นี่จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะฟุตบาทใต้ต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยงามมาก แม้กระนั้นตรงนี้คนจะมากมายตลอดทุกฤดู

3. รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station ยอดเยี่ยมในจุดดูซากุระที่งามลำดับแรกๆของเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถมองเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีพร้อมด้วยทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงราวๆต้นเดือนม.ย. สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่ว่าจะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดเป็นอย่างมากใหญ่ของเมืองจินแฮ แม้กระนั้นรถไฟนั้นจะไม่ได้มาจอดที่สถานี เพียงแต่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ คลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream เป็นเลิศในจุดที่โด่งดังเยอะที่สุดสำหรับการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังซีรีย์เรื่อง Romance ถ่ายทอดเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้ลำคลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับการถ่ายทำ ดังจนกระทั่งมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ผ่านลำคลองตามชื่อซีรีย์มันก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆม.ย.ของทุกปีซึ่งเป็นช่วงที่มีเทศกาลดูดอกซากุระ ที่คลองที่นี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาดูความสวยของดอกซากุระ สามารถเดินเล่นได้ทั้งข้างบนสะพานแล้วก็ด้านล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคลองน้ำ รวมทั้งยังมีดอกเรปซีดเผือดซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กออกดอกสีเหลืองบานพร้อมกันซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการเสริมแต่งตกแต่งรอบๆคลองในช่วงที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันแจ่มใสมาห้อยไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจสวยๆรวมทั้งในช่วงยามค่ำคืนก็จะเปิดไฟประดับสวยงามมากมาย

5. เขตช้อปปิ้งเมียงป่า หรือ มยองป่า
เขตช้อปปิ้งเมียงมองดง หรือ มยองป่าดง (Myeong-dong) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นบริเวณช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมและก็คักคักที่สุดของกรุงโซล ล่อใจนักเดินทางได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สบาย ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการบ้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอย่างยิ่งจริงๆ ภายในตลาดเมียงป่าดงเต็มไปด้วยร้าน และร้านอาหารนับไม่ถ้วน เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักเดินทางแล้วก็นักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างที่ใหญ่ที่สุด ดังเช่นว่า ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างเคยชินเซมึง(Shinsegae) ส่วนร้านอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมถึงร้านค้าเคลื่อนที่ข้างถนนที่จำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง สินค้าอื่นๆในราคาไม่แพง และอาหารหวานแสนอร่อย โดยเจ้าของร้านจำนวนมากสามารถพูดภาษาอังกฤษ ประเทศญี่ปุ่น จีน แล้วก็ไทยได้

เป็นไงบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามดูการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกมากมายจริงๆประเทศนี้เที่ยวอย่างไรก็ไปไม่หมดง่ายๆหวังว่าสหายๆอาจชอบ และก็ติดตามบทความของเรา ผู้ใดกันแน่ประทับใจขอความปรานีแชร์ให้สหายๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วเจอกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจำเป็นต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ๋ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่รู้ไหมมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกมากมายในเวียดนามที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำต้องสุดๆ5 สถานที่ไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โรงแรม บนยอดเขา อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราว 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักรวมทั้งโฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการรบชาวประเทศฝรั่งเศสพ่ายกลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่ยาวนานหลายปี จวบจนกระทั่งถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับในการนั่งตะกร้าจากข้างล่างขึ้นไปด้านบน ค่าใช้จ่ายสำหรับในการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วก็ตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บานาฮิลล์ ถูกทำขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่เป็นที่รู้จักจากประเทศออสเตรเลีย เครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมดทั้งปวง 94 เคบิน กระเช้ามีอีกทั้งแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ภายในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามและก็น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งวันนี้เราจะขอแนะนำสถานที่เที่ยวที่มีความสวย แล้วก็ความตรึงใจ

โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นเกิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ แล้วก็ได้รับการยินยอมรับจาก นักตรวจถ้ำทั่วโลกว่า เป็นถ้ำอันดับแรกๆของโลก ด้วยเหตุว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการอาทิเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำมากที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติแล้วก็ทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) นั่นก็เลยส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่แบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) แล้วก็อำเภอไม่ญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) และติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาด้านใต้ราวๆ 500 กิโล ด้านในเขตสวนมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้มีชื่อในความสวยสดงดงามของถ้ำที่มีอยู่เยอะๆ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำน้ำใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่เกียรติศักดิ์โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่สมควรพลาดดู โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกด้วยเหตุว่ามีความสวยของธรรมชาติเยอะแยะ

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกโดยประมาณ 170 กิโล รวมทั้งอยู่ใกล้กับประเทศจีน ฮาลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กม. มีเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยสดงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานราษฎรเวียดนามบรรยายกันว่า ในสมัยก่อนที่ชาวเวียดนามกำลังรบกับจีน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำดิ่งลงสู่ทะเลรอบๆอ่าวฮาลอง ทำให้มีอัญมณีและหชูพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน รวมทั้งบางตำนานเอ๋ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งเชื่อว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณก้นอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาปา ที่นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอันงดงามที่กลุ้มรุมไปด้วยยอดเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปีทำให้เช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวย ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงดึงดูดนักเดินทางจากทั้งโลกให้แวะเวียนมาเที่ยวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง คือเมืองเล็กๆที่นักท่องเที่ยวฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักผ่อนตั้งแต่ยุคที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวยุโรปติดอกติดใจตรงนี้เนื่องจากว่าอากาศดีแล้วก็เงียบสงบ ต่อมาซาปาจึงมีชื่อและเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นจนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ใกล้กับริมหาด จึงมีแดดและลมที่แรงมากมายทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ เทือกเขาทรายขาวและเทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่ชื่นชอบมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถายภาพ เนื่องจากว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

รายละเอียดเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมที่สุดในการมาเที่ยวคือ เวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็น เนื่องจากกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศและก็แดดจัดมากมาย
เป็นยังไงบ้างขา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักเดินทางที่เดินทางมายังที่แห่งนี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เพราะเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายๆคนรู้จักดีกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ติดกับริมทะเล จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากมายทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงภูเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายรูป เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่าง ซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นขณะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อการมาท่องเที่ยวหมายถึงช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นเพราะกลางวันถึงเวลาบ่ายนั้นอากาศและก็แดดแรงมาก
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตระเวนท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ๋ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แม้กระนั้นทราบไหมมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆน่าสนใจอีกเพียบเลยในเวียดนามที่ปัจจุบันนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจำเป็นต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ใดกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดเขา อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราว 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักและก็โฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการรบชาวฝรั่งเศสแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่ยาวนานหลายปี จนถึงถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากข้างล่างขึ้นไปด้านบน ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเคเบิลคาร์ขั้นแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา รวมทั้งตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกทำขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากประเทศออสเตรเลีย วัสดุและเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งปวง 94 เคบิน ตะกร้ามีแบบเปิดโล่งโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่เที่ยวที่มีความจำเป็นทางประวัติศาสตร์ และยังรวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยสดงดงามและน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของโลก แล้วก็วันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งยังความงดงาม และก็ความซาบซึ้ง

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นเกิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากข้างในถ้ำ แล้วก็ได้รับการยอมรับจาก นักตรวจถ้ำทั่วทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับต้นๆของโลก เพราะเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการอย่างเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำเยอะที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติแล้วก็ทางธรรีวิทยา ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) นั่นจึงทำให้อุทยานที่นี้มีตำแหน่งที่ตั้งแบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) และก็อำเภอไม่ญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางใต้โดยประมาณ 500 กิโลเมตร ด้านในเขตสวนมีกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้โด่งดังในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำน้ำใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งในประเทศเวียดนามที่กิตติศัพท์มีชื่อเสียงไปทั้งโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่สมควรพลาดดู โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานยูเนสโกเพราะเหตุว่ามีความสวยสดงดงามของธรรมชาติจำนวนมาก

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางทางเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกราวๆ 170 กม. แล้วก็อยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร มีริมฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่กับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาทดลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามเล่ากันว่า ในอดีตกาลที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน เทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำตรงลงสู่ท้องทะเลบริเวณอ่าวฮาลอง ทำให้มีอัญมณีแล้วก็หยกพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน และบางตำนานเอ๋ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆก้นอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาปา นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง เป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากที่มีเสน่ห์สูงที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอันสวยสดงดงามที่รุมล้อมไปด้วยขุนคีรีจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปีทำให้ยามเช้าของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมงดงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงล่อใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาเที่ยวได้เยอะมากๆ

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง เป็นเมืองเล็กๆที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่สมัยที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกชอบใจตรงนี้เพราะว่าอากาศดีรวมทั้งสงบเงียบ ต่อมาซาขว้างจึงเป็นที่รู้จักแล้วก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นจนมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายๆคนเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ชิดกับชายทะเล ก็เลยมีแดดรวมทั้งลมที่แรงมากมายทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงภูเขาทรายขาวแล้วก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แม้กระนั้นเป็นที่ชื่นชอบมากกว่าในสายตาของตากล้อง เนื่องจากว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่างซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวเป็น ช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็น เนื่องจากตอนกลางวันถึงเวลาบ่ายนั้นอากาศและแดดจัดมาก
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ กล่าวได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้เดินทางท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่รวมทั้งอยู่ชิดกับริมทะเล ก็เลยมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งเป็นภูเขาทรายขาวและก็ภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายภาพ เนื่องด้วยสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งเครื่องใช้ไม้สอยสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ตอนที่ดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวหมายถึงตอนเวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็นเพราะว่ากลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศและก็แดดจัดมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างขา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

10 สิ่งที่จำต้องรู้และควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในเมียนมาร์

1. จัดเวลามากยิ่งกว่า 1 สัปดาห์สำหรับเพื่อการเที่ยวเที่ยวชม
การเที่ยวเมียนมาร์ควรต้องใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สบายนักและทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูเหมือนรีบเร่งเหลือเกินแล้วก็ยังท่องเที่ยวได้ไม่ทั่ว ถ้าหากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 สัปดาห์ให้วางแผนเส้นทางท่องเที่ยวรอบๆสถานที่ท่องเที่ยวหลัก 4 ที่โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักแห่งแล้วก็บินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปและรับประทานให้กระจัดกระจายในย่างกุ้ง
ปิ้งกุ้ง เป็นเมืองขนาดกระชับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากสมัยอาณานิคมกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองชักชวนให้คนึงถึงอดีตกาลที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในตอนที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองคำสวยงามเป็นเครื่องหมายของพุทธศาสนาอันเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ชุมชนชาวจีน เนปาล และก็อินเดียตั้งอยู่ข้างเคียงชุมชนชาวประเทศพม่า ที่พักราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พม่า
พุกาม ดินแดนลึกลับเหนือกาลเวลานี้เป็นที่ตั้งของสงฆ์กว่า 2,000 แห่งที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่างดงาม ไปจนถึงวัดเล็กๆที่สร้างละเอียดลออบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกเสมือนกำลังเดินทางย้อนเวลา ที่นี่ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (ราว 600 บาทต่อวัน) แม้กระนั้นการขี่จักรยาน (ราวๆ 90 บาทต่อวัน) เป็นวิธีเดินทางที่ดีเยี่ยมที่สุดในการท่องเที่ยวแบบเต็มวันและปฏิบัติตนกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในพูกาม ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
4. ศึกษาค้นพบความสงบเงียบและก็จารีตดั้งเดิมที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของประเทศพม่า) เป็นดังกระจกสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันสวยของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือและคลองที่ใช้คนขุด ตรงนี้ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมเก่าแก่(และชาวประมงที่พายเรือด้วยเท้าฝ่ายเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ และการค้าขายแบบดั้งเดิม ทั้งยังยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ และสวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล ถ้าเกิดต้องการดูทะเลสาบแบบสงบเงียบไม่ต้องฝ่าผู้คนเราขอเสนอแนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มลองของอร่อย รวมทั้งหัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวย
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันนานัปการให้ทำจนถึงล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการดูทิวทัศน์เมืองจากยอดดอยมัณฑะเลย์ หลังจากที่ระหกระเหินทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ แล้วก็หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มรสของกินใหม่ๆจากร้านค้าเคลื่อนที่สองข้างทางซึ่งมีมากมายจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั้งเมือง แล้วก็หัวเราะให้ลั่นกับลูกพี่ลูกน้องหนวดนักเล่นตลกการบ้านการเมืองที่จัดแจงแสดงขบขันทุกๆวันในบ้านของครอบครัว ตั๋วเครื่องบินไปมัณฑะเลย์ราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน และก็นั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
ถ้าการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังเร้าใจน้อยเกินไป ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในเมียนมาร์ รถไฟสายที่จะทำให้คุณใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมดูลงมาให้ได้ เนื่องจากว่าความสูงที่น่าเสียวไส้จะก่อให้คุณลืมไม่ลงไปอย่างยิ่งจริงๆ
7. ลงใต้ไปเยือนเกาะสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เนื่องจากเขตด้านเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักเดินทางเดินทางเข้าไปได้ ทางใต้จึงเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายยิ่งกว่าเนื่องจากว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวดูได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งและก็ทวายเป็นเส้นทางที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้รวมทั้งให้บรรยากาศเขตแดนสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่าอัศจรรย์ เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่สวยสดงดงามอัศจรรย์โดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือรวมทั้งทัวร์แบบค้างคืนหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มต้นที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองลู่ทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวล้นหลามและตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างกุมภาพันธ์/เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงที่นักเดินทางน้อยกว่าแต่ว่าอากาศก็ร้อนอย่างยิ่ง ทดลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโรงแรม อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในพม่าคุณจำเป็นต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเงินใกล้บ้านหรือในจ.กรุงเทพฯ แล้วหลังจากนั้นนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดพอดีสนามบิน เกสท์เฮ้าส์ หรือแบงค์ในเมียนมาร์ เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทางดังเช่นว่า อาหาร ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง รวมทั้งของฝาก ในเมียนมาร์มีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่ 
10. ขับร้องฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะเที่ยวพม่าต้องทำความเข้าใจที่จะสนุกสนานไปกับการเดินทางบนรถบัสอันยาวนาน เพราะเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั้งประเทศ รถบัสหลายคันจะออกช่วงบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในตอนเวลาค่ำ หรือเช้ามืดวันพรุ่งนี้ บนรถบัสมักจะมีคาราโอเกะไว้บริการแล้วก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถออกไปจนถึงจุดมุ่งหมายเลยทีเดียว

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ห้องอาหารชี้แนะในประเทศพม่า

ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักแสวงบุญ เพราะเหตุว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
สะกดรอยท่องเที่ยวพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เว้นเสียแต่สถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ อีกด้วยโดยยิ่งไปกว่านั้นในเมืองปิ้งกุ้ง วันนี้เราจึงจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในเมียนมาของ คุณสมาชิกลำดับที่ 1877965 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่คราวนี้คุณได้รีวิวของกินแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองปิ้งกุ้งมาให้เราได้ชมกัน ซึ่งมีทั้งอาหารแบบรถเข็นริมถนน ไปจนถึงของกินเลิศหรูในห้างสรรพสินค้า เมียนมาจะมีอะไรน่ากินบ้าง ตามเธอไปดูกันเลยจ้ะ
ย่างกุ้ง : ภัตตาคารการะเวก สร้างขึ้นในปี 2513 โดยเลียนแบบเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นห้องอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบในตัวเมืองย่างกุ้งข้างในมีการแสดงทุ่งนาฎศิลป์พม่า จากจุดนี้สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนอาหารจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาชาติ รวมทั้งอาหารท้องถิ่นของพม่า
ย่างกุ้ง : Royal garden restaurant ร้านอาหารอาหารจีน บรรยากาศในสวน เน้นในเรื่องของอาหารจีนและก็ซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ภายในตกแต่งสวย 
ย่างกุ้ง : Western Park restaurant ร้านอาหารที่นี้สะดุดตาในเรื่องเป็ดกรุงปักกิ่งรวมทั้งกุ้งมังกร แนวอาหารจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดย่างของตรงนี้เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟพร้อมด้วยสาธิตให้ดู ช่วงนี้เปิดทั้งผอง 2 สาขาแล้ว 
ปิ้งกุ้ง : Golden Duck restaurant ร้านอาหารที่เลื่องลือของปิ้งกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ อาหารอร่อยร้านค้าที่นี้สามารถเห็นวิวชเวดากองอย่างเห็นได้ชัดเนื่องด้วยอยู่ไม่ไกลจากชเวดากองห้องอาหารที่นี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน จำนวนมากเป็นพวกคนมั่งคั่งชาวพม่า
ย่างกุ้ง : Oriental House restaurant ภัตาติดอยู่รติ่มซำร้านอาหารของกินติ่มซำเปิดขายในช่วงเวลาเช้า เลยเที่ยงตรงไปของก็จะหมดแล้วของกินเป็นพวกติ่มซำ พนักงานจะยกของกินออกมาวางไว้ด้านหน้าพวกเรา สามารถเลือกทานได้ แม้เข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน และก็ลือชื่อของที่นี่แนะนำให้ทานคู่กับระเบียงมร้อนของร้านค้าทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านค้าจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑ์เมียนมาร์
หงสาวดี : ภัตตาคารเจ้าสัว ห้องอาหารที่นี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ขึ้นชื่อในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ด้านในร้านตกแต่งแบบเตียนโปร่งสบาย
พม่า : Nandar restaurant ร้านค้านี้ตั้งอยู่ที่เมืองพูกาม มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ชมอาหารอร่อย ถูกปากคนประเทศไทย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ร้านอาหารแนะนำในพม่า

ประเทศพม่า หรือเมียนมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักแสวงบุญ เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ตามรอยท่องเที่ยวพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่นอกเหนือจากสถานที่เที่ยวแล้ว เมืองนี้ยังมีของกินที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อีกด้วยโดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้ง วันนี้เราจึงจะพาคุณไปติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในเมียนมาของ คุณสมาชิกเลขลำดับ 1877965 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ครั้งนี้เธอได้รีวิวอาหารแบบจัดหนักจัดเต็มในเมืองย่างกุ้งมาให้พวกเราได้ดูกัน ซึ่งมีทั้งยังอาหารแบบรถเข็นข้างถนน ไปจนถึงอาหารเลิศหรูในห้างสรรพสินค้า เมียนมาจะมีอะไรน่ารับประทานบ้าง ตามเธอไปชมกันเลยค่ะ
ย่างกุ้ง : ภัตตาคารการะเวก ผลิตขึ้นในปี 2513 โดยเอาอย่างเรือกัญญา หัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ป่าในหิมพานต์
เป็นร้านอาหารที่สร้างเป็นรูปเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่แกนกลางทะเลสาบในเมืองปิ้งกุ้งด้านในมีการแสดงนาฎศิลปเมียนมาร์ จากจุดนี้สามารถมองเห็นมหาเจดีย์ชเวดากองสะท้อนผิวน้ำด้วย ส่วนอาหารจัดเป็นแบบบุฟเฟต์นานาประเทศ แล้วก็ของกินประจำถิ่นของพม่า
ปิ้งกุ้ง : Royal garden restaurant ภัตตาคารอาหารจีน บรรยากาศในสวน ย้ำในเรื่องของอาหารจีนแล้วก็ซีฟู้ด
อยู่ใกล้กับ Chatrium Hotel บรรยากาศสไตล์ โต๊ะจีน ข้างในตกแต่งงดงาม 
ปิ้งกุ้ง : Western Park restaurant ห้องอาหารที่นี้เด่นในเรื่องเป็ดเมืองปักกิ่งและก็กุ้งมังกร แนวอาหารจะเป็นแบบอาหารจีน เป็ดย่างของที่นี่เมื่อสั่งแล้วจะมาเสิร์ฟพร้อมทั้งสาธิตให้ดู ปัจจุบันนี้เปิดทั้งหมด 2 สาขาแล้ว 
ย่างกุ้ง : Golden Duck restaurant ห้องอาหารที่มีชื่อเสียงของย่างกุ้ง ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ อาหารอร่อยร้านค้าแห่งนี้สามารถเห็นทิวทัศน์ชเวดากองอย่างแจ่มแจ้งเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากชเวดากองร้านอาหารแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมาทาน โดยมากเป็นพวกคนมั่งคั่งชาวประเทศพม่า
ย่างกุ้ง : Oriental House restaurant ภัตาติดอยู่รติ่มซำร้านอาหารอาหารติ่มซำเปิดขายในช่วงเวลาเช้า เลยเที่ยงไปของก็จะหมดแล้วของกินเป็นพวกติ่มซำ บุคลากรจะยกอาหารออกมาวางไว้ด้านหน้าเรา สามารถเลือกทานได้ หากเข่งไหนไม่ทานจะไม่คิดเงิน รวมทั้งลือชื่อของที่นี่แนะนำให้ทานคู่กับชานมร้อนของร้านทานคู่ติ่มซำหอมอร่อยมาก ร้านจะตั้งอยู่แถว พิพิธภัณฑสถานเมียนมาร์
หงสาวดี : ร้านอาหารเจ้าสัว ร้านอาหารที่นี้ ตั้งอยู่ที่เมืองหงสาวดี ขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ ด้านในร้านตกแต่งแบบเตียนโล่งโปร่งสบาย
ประเทศพม่า : Nandar restaurant ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เมืองประเทศพม่า มีการแสดงโชว์หุ่นกระบอกให้ได้ดูของกินอร่อย ถูกปากคนไทย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ท่องเที่ยวเมียนมาร์สักการะ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของพม่า

ยกย่องพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมธาตุรายปีเกิดของปีมะเมีย สักการพระบรมสารีริกธาตุมุเตา เยอะที่สุดของพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระบรมสารีริกธาตุประจำปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะกล่าวถึงการไปท่องเที่ยวพม่าแล้ว คงไม่มีผู้ใดไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า ทั้งยังชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเส้นผมธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งมีความโหฬารตระการตา โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งมีเหตุมาจากแรงเชื่อถือของชาวประเทศพม่า ร่วมกันบริจาคเงินทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่ยิ่งขึ้นเรื่อยๆมีทองคำแท้เปิดเผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 โลเลยทีเดียว ทำให้เจดีย์แห่งนี้ มีสีทองสัมฤทธิ์อร่าม ส่องให้เห็นกลางวันเวลากลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกตกแต่งไปด้วยเพชรพลอยอันเลอค่า ส่งแสงระยิบเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาเที่ยวเมียนมาร์ นอกเหนือจากการที่จะมาชื่นชมความงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จะต้องไปนั่งสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานแล้วก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานสัมฤทธิผล หรือ ลานอธิษฐาน เนื่องจากมั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จตามที่ต้องการ ต่อด้วยการสรงน้ำพระประจำวันกำเนิดที่ตั้งอยู่ทั้งยังแปดด้านรอบองค์เจดีย์แล้วก็มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้ไหว้ขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวเมียนมาร์ชมความสวยสดงดงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวประเทศพม่ากันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความสวยงามในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมสารีริกธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีและก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่าอีกด้วย ด้านในเจดีย์บรรจุพระเส้นผมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่เห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบๆองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นอิฐกลวง โดยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระกรรณของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งเสียงชะเวตี้เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆต่อมาพระเจ้าบุเรงนองได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มอีกหลายชั้น กล่าวกันว่าก่อนที่จะพระองค์จะออกทำสงครามเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกครั้ง แล้วก็สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยกทัพมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะแล้วก็จัดแสดงซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาเที่ยวเมียนมาร์ได้สักการะคู่กันกับองค์เดี๋ยวนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยวิธีการอธิษฐาน ให้เอามือและก็หน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมธาตุองค์เดิมที่หัก รวมทั้งอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสัมฤทธิ์ผล
3. พระธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจครั้งโย
พระบรมธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจทีโย ในภาษามอญ แสดงว่าหินรูปหัวฤษี เป็นหินแห่งเลื่อมใส มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน ถ้าดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อก้อนหินนั้นยื่นออกมานอกผาแถมหน้าผายังเอียงลงต่ำ ทำให้ดูอย่างกับว่าก้อนหินวางอยู่อย่างหมิ่นเหม่ราวกับจะหล่นลงมา แต่กลับตั้งตระหง่านบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแค่น้อยนิด ไม่เกรงกลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่ประการใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับแขวนเอาไว้ จึงได้เรียกกันว่า พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อยนอกเหนือจากนั้น ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนก้อนหิน ได้ถูกจำลองเป็นพระผมแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จะต้องไปเที่ยวพม่า เพื่อไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต เช้าใจกันว่า ถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสบายความเจริญ พร้อมด้วยขอสิ่งใดก็จะได้สมเช่นมุ่งหมายทุกประการ

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

ท่องเที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ สบายกว่าท่องเที่ยวเองยังไง…?

ทำงานกันมาอ่อนล้าๆตลอดปี ลองหาวันว่างนิดหน่อยหน่อย ท่องเที่ยวใกล้บ้านที่เมียนมาร์กันมั้ยคะ? ปี 2018 นี้ พม่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวสนใจท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปี เรียกได้ว่ามาแรงแซงทางโค้งมากยิ่งกว่าทัวร์ประเทศฮ่องกงและก็ประเทศสิงคโปร์กันเลยทีเดียวล่ะจ้ะ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ทัวร์เมียนมาร์ ได้รับความพึงพอใจและก็ขายดิบขายดีก็คือ การไป เที่ยวประเทศพม่าด้วยตัวเอง ถือว่ายังเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสบายมากเท่าไรนัก ถ้าเกิดคนใดกันแน่ไม่ใช่สายลุยหรือเตรียมความพร้อมรับการเสี่ยงได้ทุกสถานการณ์ เสนอแนะให้ เที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ น่าจะตอบโจทย์มากกว่า ถ้าหากอยากทราบว่าท่องเที่ยวแบบซื้อ ทัวร์พม่า สบายกว่าท่องเที่ยวเองเช่นไรมาดูกันค่ะ
1.การคมนาคม
ในพม่า รถสาธารณะแต่ละเมืองยังมีน้อย ทำให้การต่อรถหรือขึ้นลงเวลาจะเดินทางไปยังที่เที่ยวต่างๆบางครั้งอาจจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ ประกอบกับป้ายสำหรับบอกทางก็เป็นภาษาเมียนมาร์ทั้งหมด ทำให้บางทีก็อาจจะต้องใช้เวลามากมาย แถมบางทีบางทีอาจยังหลงทางแบบไม่คาดคิดอีกด้วย ฉะนั้นถ้าจะไป เที่ยวเมียนมาร์ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องทำการบ้านหนักพอสมควรเลยล่ะค่ะ แม้กระนั้นถ้าเกิดไปเที่ยวพม่ากับทัวร์ ก็จะสะดวกมาก เพราะมีรถยนต์รับส่งตลอดทริป หากไปเที่ยวสถานที่ต่างๆที่แต่ละจุดไกลห่างกัน ไปกับทัวร์จะคุ้มกว่ามากเลยจ้ะ
2.การสื่อสารภาษาพูด
ท่องเที่ยวต่างประเทศ สิ่งนึงที่จำต้องพบเป็นอันดับแรกก็คือความไม่เหมือนในเรื่องของภาษา ในเมืองย่างกุ้ง เรายังเพียงพอติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษกับคนท้องถิ่นได้ตามธรรมดา อาทิเช่น การสั่งอาหาร หรือถามทาง แม้กระนั้นถ้าออกไปเที่ยวชานเมืองย่างกุ้ง จะพบผู้คนที่ติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้น้อยลง ก็บางทีอาจจะจะต้องใช้หลายๆความชำนาญเพื่อติดต่อกันให้เข้าใจ แต่ถ้าไป ท่องเที่ยวกับทัวร์ ก็จะมีไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ ช่วยเสวนา หรือจัดแจงตลอดการเดินทางเลยค่ะ
3.ห้องอาหาร
เรื่องชีพเป็นเรื่องสำคัญเลยค่ะ ท่องเที่ยวก็จำต้องได้ทดลองลองของกินของท้องถิ่นนั้นๆด้วย ถ้าเกิดท่องเที่ยวเองบางทีก็อาจจะตรากตรำหน่อยเวลาพบอาหารที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาสั่งไปแล้วหลังจากนั้นก็จำเป็นต้องมาลุ้นอีกว่ามันเป็นยังไง กินได้มั้ย แต่ว่าถ้าเกิดไปเที่ยวประเทศพม่ากับทัวร์ไม่ต้องลุ้นเรื่องอาหารการกิน ว่ารสชาติจะอร่อยไหม สะอาดหรือเปล่า ด้วยเหตุว่าบริษัททัวร์จะเลือกร้านอาหารที่ถูกสุขลักษณะ รสชาติกับชาวไทย แถมไม่ต้องต่อคิวรออาหารลงอีกด้วย
4.การไหว้พระขอพร สักการสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พม่าขึ้นชื่อลือนามในเรื่องของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆคนไม่ใช่น้อยต้องการไปเที่ยวแสวงบุญที่พม่าสักครั้งในชีวิต แต่ถ้าหากไปเที่ยวเอง ไปถึงสถานที่ทั้งทีถ้าเกิดไม่รู้กรรมวิธีการไหว้ที่ถูกต้องก็น่าจะไปแบบมึนงงๆทำอะไรไม่ค่อยถูก รวมทั้งไม่รู้เรื่องแบบเดียวกันว่าที่ไหว้ไปแล้วเป็นแนวทางที่ถูกไหม แต่ว่าหากท่องเที่ยวกับทัวร์ คุณจะได้รับบริการข้อเสนอแนะจากไกด์ผู้ที่มีความชำนาญ รวมทั้งข้อเสนอประเด็นการแต่งกาย การสวดมนต์ ไหว้พระ ขอพร สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแต่ละสถานที่ พร้อมคำพรรณนาที่จะทำให้ท่านรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นๆอย่างแม่นยำลึกซึ้ง
5.สบายมากเมื่อพาคุณพ่อคุณแม่ท่องเที่ยว
ถ้าลูกๆคนไหนกัน อยากพาคุณพ่อคุณแม่ท่องเที่ยวพม่า ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิธีการสำหรับเลือกซื้อ ทัวร์เมียนมาร์ ท่องเที่ยวนั้นจะเหมาะมากที่สุดเลยจ้ะด้วยเหตุว่าคุณจะได้ในเรื่องของความปลอดภัย ความสบายสบายสำหรับเพื่อการเดินทาง ของกินต่างๆรวมทั้งที่พักแบบนอนสบาย แถมยังไม่ต้องถือกระเป๋าสัมภาระเองให้เมื่อยล้าอีกด้วย
6.ไม่ต้องลุ้นเรื่องที่พัก
แม้ไป เที่ยวประเทศพม่าด้วยตัวเอง เวลาจองห้องพักไปแล้ว เพียงพอไปถึงที่พักคุณอาจจะต้องลุ้นว่าที่พักจะดีงามเช่นเดียวกับที่อ่าน Review มาหรือไม่ แต่ถ้าซื้อ ทัวร์ประเทศพม่า จำนวนมากในโปรแกรมจะจัดที่พักอย่างดี เป็นโฮเต็ลระดับ 4-5 ดาว รับประกันว่าสะอาดแล้วก็ปลอดภัย พักได้พอใจ ไม่ต้องลุ้นแน่นอนค่ะ
วิธีสำหรับการเลือกซื้อ ทัวร์ประเทศพม่า ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับเพื่อการคิดแผนหรือศึกษาเล่าเรียนหาข้อมูลเที่ยวด้วยตัวเอง อีกทั้งหากว่าทริปนี้มีคุณพ่อและก็คุณแม่หรือผู้สูงอายุร่วมทริปด้วย การไป ท่องเที่ยวเมียนมาร์กับทัวร์ ก็ดูจะเหมาะสมและคุ้มมากยิ่งกว่าท่องเที่ยวเองแน่ๆค่ะส่วนคนใดเป็นสายฝ่า จะท่องเที่ยวด้วยตัวเองกับแฟนหรือเพื่อนฝูงๆก็คงจะได้ประสบการณ์ที่สนุกสนานแปลกใหม่ไปอีกแบบ อย่างไรก็ทดลองเลือกการเที่ยวที่เหมาะสมกับตัวเองดูนะคะ

ไหว้พระพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญ เสริมดวงบารมี

วันนี้ทางเราจึงได้สะสมรายชื่อ 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระประเทศพม่านิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !
1.พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนโดยมากชอบระลึกถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นอันดับต้นๆสถานที่สุดได้รับความนิยมอันดับ 1 ของทัวร์ไหว้พระประเทศพม่า เพราะว่ามีรายการวิทยุและรายการทีวีหลายรายการกันเลยทีเดียวที่จัดทัวร์ไหว้พระพม่าที่นี่ จึงไม่ฉงนใจว่าทำไมเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองย่างกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนที่ไปที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองจนกระทั่งใครๆก็อยากมาทัวร์พม่าไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงนอง มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก และก็แน่ๆว่าสุดท้ายเขาก็ชอบชนะซะทุกครั้ง นอกเหนือจากนี้ยังมีความเชื่อของชาวมอญและชาวประเทศพม่าอีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นวิถีทางสิ้นทุกข์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีประจำวันเกิดติดตั้งอยู่ 8 ด้าน ซึ่งสามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทวดาทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์เมียนมาร์
นอกเหนือจากพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทพทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทพทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” คือจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแต่น้อยกว่าเทพตามคติความเชื่อพม่า มีหน้าที่คุ้มครองป้องกันสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนประเทศพม่าใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนเคารพ
ส่วนสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ เทพทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมประสงค์ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ เทวดาทันใจ รวมทั้งเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่คนอีกหลายๆคนไปเที่ยวไหว้พระพม่า
3.ทัวร์ไหว้พระพม่ากับ เทพกระซิบกระซาบ (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อเราไปไหวเทพทันใจแล้ว ส่วนมากท่องเที่ยวพม่าจะพาไปไหว้พระ สักการะ เทพกระซุบกระซิบ กันต่อเลย เนื่องด้วยสถานที่ประดิษฐานของเทพกระซิบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซุบกระซิบมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นลูกสาวของพญานาคที่เชื่อถือศาสนาพุทธอย่างยิ่ง เมื่อตายไปก็เลยกลายเป็น นัต
ส่วนสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อเทวดากระซิบ และความศักดาที่ยั่วยวนใจไหว้พระเมียนมาร์นั้น บอกเลยว่าเป็นผลมาจากคนไทยนี่แหละ เดิมทีชาวประเทศพม่าก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ เป็นปกติ แต่ว่าไม่มีใครไปกระซิบบอกอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระเมียนมาร์ได้พาคนประเทศไทยไปและเห็นป้ายภาษาพม่าที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เพราะมีพ่อค้าแม่ขายรอบๆนั้นถูกใจโหวกเหวกโวยวาย แต่ว่าไกด์เข้าใจผิดก็เลยบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “ถ้าจะขอพรกับเทพองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” ต่อไปลูกทัวร์ชาวไทยก็ไปกระซิบบอกขอพร ซึ่งแน่ๆชาวประเทศพม่าเห็นชาวไทยทำแล้วก็สมหวังตามประสงค์ก็เลยเริ่มทำบ้างกระทั่งแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในที่สุด
4.สักการพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ย่างกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระประเทศพม่าโน่นคือ พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้นำมาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบุเรงนอง นับว่าเป็นสิ่งอำนาจที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามานาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพูกาม สวย งอนงาม โดยมีจุดแข็งตรงที่ตัววัดจะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่งดงาม จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาไหว้พระประเทศพม่าที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
แม้เมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งยั่วยวนใจนักท่องเที่ยวแล้ว ไหว้พระพม่าก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเช่นเดียวกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพระพุทธรูปปริมาณยาวประมาณ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศประเทศพม่ามีจุดแข็งตรงที่ดวงตาที่มองหวานและจีวรที่เป็นพลิ้วไหวๆส่วนตรงแกนกลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ นอกนั้นพระบาทยังมีลักษณะซ้อนกันทำให้ไม่เหมือนกันกับศิลปะแบบไทยอีกด้วย